วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556

โอ๊ยๆๆ !! ท้องเสีย !

      อาการท้องเสียนั้นหมายถึงอาการที่ถ่ายอุจจาระออกเป็นน้ำหรือของเหลวมากกว่า 3 ครั้งใน 1 วันโดยปกติอาการของท้องเสียหรือท้องร่วงนั้นจะหายได้เองภายใน 2-3 วันโดยไม่ต้องรักษาแต่ถ้านานกว่านั้นอาการท้องเสียหรือท้องร่วงยังไม่หายอาจจะเป็นปัญหาอื่น อาการท้องเสียจะทำให้ร่างกายขาดน้ำหากอาการเป็นหนักอาจจะทำให้ร่างกายขาดน้ำจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
 
  สาเหตุที่พบบ่อย คือ การติดเชื้อแบคทีเรียซึ่งอาจจะเกิดจากการกินอาหารหรือน้ำที่ไม่สะอาดได้แก่
       • เชื้อบิดไม่มีตัว Shigella,ไข้ไทฟอยด์ Salmonella,เป็นต้น
       • การติดเชื้อไวรัส ได้แก่ rotavirus, Norwalk virus
       • การติดเชื้อพยาธิ์ เช่น Giardia lamblia, Entamoeba histolytica
       • จากแพ้อาหาร และนม•จากยา เช่น ยาลดความดัน ยาปฏิชีวนะ ยาระบาย
       •โรคลำไส้มีการอักเสบ

อาการของโรคท้องร่วง
     ผู้ป่วยที่เป็นโรคท้องร่วงนั้นจะมีอาการ ปวดท้อง แน่นท้อง คลื่นไส้อาเจียนและถ่ายบ่อยครั้ง อาการของโรคท้องร่วงหากเป็นนานกว่า 3 สัปดาห์จะเรียกว่าเป็นโรคท้องร่วงเรื้อรัง แต่หากเป็นน้อยกว่า 3 สัปดาห์จะเรียกว่าท้องร่วงเฉียบพลัน โดยส่วนมากจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย และไวรัส

อาการที่ต้องสังเกตและแจ้งกับแพทย์เพื่อทำการรักษา
      •ระยะเวลาที่เจ็บป่วย
      •อาการค่อยเป็นหรือเป็นมากทันที
      •จำนวนครั้งที่ถ่าย ลักษณะอุจาระ
      •อาการปวดท้อง อาเจียน
      •ไข้

เมื่อมีอาการท้องเสียล่ะควรทำอย่างไร?
     ร่างการของคนเรานั้นจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบกับการติดเชื้อที่ลำไส้หรือการที่เรากินอาารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ โดยการปล่อยสารพิษหรือเชื้อโรคออกมา  ฉะนั้นขณะที่เราเกิดอาการท้องเสียจึงไม่ควรที่จะกินยาที่จะทำให้เราหยุดถ่ายหรือยาแก้อาการท้องเสียเพราะมันจะทำให้ลำไส้กักเก็บเชื้อแบคทีเรียเอาไว้นานมากขึ้น ดังนั้นถ้าท้องเสียไม่ควรจะทานยาแต่ควรจะถ่ายออกมาให้หมดและเมื่อถ่ายออกมาหมดลำไส้ก็จะกลับมาปกติเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น